ข้อมูลการออกอากาศ ของ อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 9

The Girls Go Cruisin'

ออกอากาศ : 19 กันยายน พ.ศ. 2550

สาวงามทั้ง 33 คนที่ผ่านการคัดเลือกได้เดินทางมาคัดตัวกันบนเรือสำราญสุดหรูที่อ่าว แคริบเบียน ภารกิจแรกของพวกเธอคือการเดินแบบบนดาดฟ้าเรือด้วยเสื้อชูชีพ จากนั้นเธอต้องเข้าสัมภาษณ์เป็นรายตัวกับไทร่า มิสเจ และมิสเตอร์เจย์ เจเน็ตได้สาธิตการแว็คขนให้กับไทร่า เฮทเธอร์เคยได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่าเป็นโรคแอสเปอเกอร์ ซินโดรม ซึ่งทำให้เธอมีปัญหาในการเข้าสังคม ลิซ่าเคยเป็นนักเต้นบิกินี่มาก่อน และมาร์วิต้าเล่าถึงอดีตอันเลวร้ายของเธอ

หลังจากทำการคัดเลือกเหลือเพียง 20 คนแล้ว สาวๆ ได้เดินทางไปถ่ายรูปชุดว่ายน้ำกันต่อที่ชายหาดเซ้นต์จอห์น แอนติก้า โดยพวกเธอได้พบกับแจสลีน กอนซาเลซ ผู้ชนะจากฤดูกาลที่8 ด้วย จากนั้นไทร่า มิสเจ และมิสเตอร์เจย์ จึงได้ทำการปรึกษากันและคัดเลือกสาว 13 คนสุดท้ายเพื่อทำการแข่งขันกันต่อไป

  • ช่างถ่ายภาพ : จิม เวด
  • แขกรับเชิญพิเศษ : แจสลีน กอนซาเลซ, เกรโกริโอ้ คิววาส, แพททริค ดุ๊คส์

The Models Go Green

ออกอากาศ : 26 กันยายน พ.ศ. 2550

ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 13 คน ได้ถูกพาไปที่ ลอสแอนเจลิส เพื่อถ่ายภาพครั้งแรก ในฤดูกาลนี้คอนเซ็ปต์ของรายการก็คือ รณรงค์โลกสีเขียว ดังนั้นภาพถ่ายแรกของพวกเธอก็คือต่อต้านการสูบบุหรี่ โดยสาวๆ จะต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ดังนี้

นางแบบผลกระทบจากการสูบบุหรี่
แอมเบรียลมะเร็งปอด
บิอังก้าโรคเหงือกอักเสบ
ชานทาลผ่าตัดหลอดลม
เอโบนีปอดอักเสบ
เฮทเธอร์สูบบุหรี่ต่อจากคนอื่น(ถ่ายกับซาลิช่า)
เจเน็ตมะเร็งผิวหนัง
เจน่าห์ผู้ป่วยที่ผ่านการทำเคมีบำบัด
คิมเบอร์ลีย์ผอมแห้งหนังหุ้มกระดูก
ลิซ่าเนื้อร้ายบนใบหน้า
มีล่าผมร่วงจากการทำเคมีบำบัด
ซาร่าห์หน้าแก่กว่าวัย
ซาลิช่าสูบบุหรี่ต่อจากคนอื่น(ถ่ายกับเฮทเธอร์)
วิคตอเรียทารกเสียชีวิตในครรภ์

การแข่งขันครั้งแรก สาวๆ ต้องไปหาเบนนี่ นินจา ที่ร้านโอลด์นาวี โดยพวกเธอมีเวลา 10 นาที เพื่อหาเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปห้องตัดสิน และซาลิช่าเป็นผู้ชนะซึ่งรางวัลของเธอก็คือ ได้ช็อปปิ้งเป็นเงิน 1,000 ดอลล่าห์ และเป็นนางแบบให้กับโอลด์นาวีในห้องตัดสิน ไทร่าในบอกให้สาวๆ ทำตัวเป็นแบบอย่างกับสาวๆ คนอื่นๆ และสั่งห้ามให้พวกเธอเลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด ภาพของเฮทเธอร์, ลิซ่า และชานทาลได้รับคำชมจากคณะกรรมการเป็นอย่างมาก ในขณะที่บิอังก้า เอโบนี และมีล่ากลับออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ เอโบนีและมีล่ากลายเป็นสองคนสุดท้าย เอโบนียังดูติดขัดและขาดความมั่นใจในขณะที่มีล่าไม่จริงจังในการถ่ายรูป และนั่นทำให้เธอเป็นคนแรกที่ต้องกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เฮทเธอร์ คูซมิช
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เอโบนี มอร์แกน และ มีล่า บูซิโนว่า
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : มีล่า บูซิโนว่า
  • ช่างถ่ายภาพ : ไมค์ โรเซนธอล
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เบนนี่ นินจา
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : ลิซ่า แจ็คสัน

The Girls Go Rock Climbing

ออกอากาศ : 3 ตุลาคม พ.ศ. 2550


สาวๆ ได้ถูกพาไปที่ตึก แฟชั่นแมดเฮาวส์ โดยมิสเจ ได้รอสาวๆ อยู่ในชุดนางพยาบาลสุดสยอง เพื่อที่จะสอนพวกเธอเรื่องการเดินในชุดและพื้นที่จำกัด เฮทเธอร์โดนติเรื่องท่าเดินที่แสนเลวร้าย และบิอันก้ามีท่าเดินที่เป็นเอกลักษณ์เกินไป เมื่อกลับไปบ้าน บิอังก้าซึ่งไม่ชอบซาลิช่าอยู่แล้ว ก็เกิดโต้เถียงจนเป็นเรื่องทะเลาะกันจากนั้นสาวๆ ต้องแข่งกันเดินแบบให้กับ คอลเลน ควีน และ ซาลิช่า เป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้ ซึ่งรางวัลของเธอก็คือการไปเดินแบบที่ปารีสการถ่ายรูปประจำสัปดห์ สาวๆ ต้องปีนภูเขาจำลองในชุดสุดหรู ซึ่งภาพถ่ายของ เจน่าห์ สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการมากที่สุด และลิซ่า, เฮทเธอร์ และชานทาล ก็ต่างได้ภาพที่งดงามอย่างไร้ที่ติ ในขณะที่เอโบนี บิอังก้า และคิมเบอร์ลีย์ กลับได้ภาพที่ออกมาแย่อีกครั้ง แต่เอโบนีก็ทำให้กรรมการพอใจที่อย่างน้อยเธอก็มีพัฒนาการมากขึ้นกว่าครั้งก่อนบุคลิกและนิสัยของบิอังก้าสร้างความไม่พอใจให้กับกรรมการและทำให้เธอกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับคิมเบอร์ลีย์ ที่กรรมการลงความเห็นว่าเธอดูไม่มีความเป็นแฟชั่นชั้นสูงหรือมีความเป็นนางแบบในตัวเลย และสุดท้ายคิมเบอร์ลีย์ ก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เจน่าห์ ดูเซ็ทท์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : บีอังก้า โกลเด้น และ คิมเบอร์ลีย์ ลีแมนส์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : คิมเบอร์ลีย์ ลีแมนส์
  • ช่างถ่ายภาพ : แมทธิว จอร์แดน สมิธ
  • แขกรับเชิญพิเศษ : คอลเลน ควีน, รอย แคมป์เบล, แอนดาและมาช่า
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Goes Bald

ออกอากาศ : 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ถึงเวลาที่จะต้องแปลงโฉม สาวๆ ส่วนใหญ่ต่างพอใจในรูปลักษณ์ใหม่ของตัวเอง ในขณะที่บิอังก้า เสียผมมากเกินไป จนต้องถูกโกนหัวแทนที่จะได้ต่อผมบลอนด์ยาวอย่างที่ตั้งใจไว้ครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอหงุดหงิดเป็นอย่างมากจากนั้นพวกเธอจะต้องแข่งกันสร้างลุคส์ให้กับตัวเองด้วยเครื่องสำอางคัฟเวอร์เกิร์ล คอสเมติค เจเน็ตเป็นผู้ชนะการแข่งขันและรางวัลก็คือภาพของเธอจะได้ขึ้นเว็บคัฟเวอร์เกิลร์ สำหรับสอนการแต่งหน้า

สำหรับการถ่ายภาพในครั้งนี้ สาวๆ จะต้องเป็นดอกไม้ชนิดต่างๆ ดังนี้

นางแบบดอกไม้ชนิดต่างๆ
แอมเบรียลดอกกุหลาบ
บิอังก้าดอกทานตะวัน
ชานทาลดอกเบเบี้ บรีท
เอโบนีดอกปักษาสวรรค์
เฮทเธอร์วัชพืช
เจเน็ตไฮเดรนเยียร์
เจน่าห์ต้นมอสส์
ลิซ่าต้นไผ่
ซาร่าห์เถาวัลย์
ซาลีช่าดอกทิวลิป
วิกทอเรียตะบองเพชร

ในห้องตัดสิน กรรมการต่างรักภาพของลิซ่า, เจน่าห์, เฮทเธอร์ และซาร่าห์ เอโบนีถูกติเรื่องบุคลิกภาพ แต่ในภาพถ่ายของเธอก็ยังได้รับคำชมอย่างดี ลุคส์ใหม่ของซาลิช่าทำให้เธอเสียความมั่นใจจนถ่ายภาพออกมาได้ไม่ดี และต้องกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับวิกทอเรีย และถึงแม้จะได้ภาพที่ออกมาสวย แต่ด้วยทัศนคติในห้องตัดสินอันเลวร้ายของวิกทอเรีย ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ต้องตกรอบ

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เจน่าห์ ดูเซ็ทท์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ซาลีช่า สโตเวอร์ และ วิกทอเรีย มาร์ชแมน
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : วิกทอเรีย มาร์ชแมน
  • ช่างถ่ายภาพ : ไลโอเนล เดลูวี่
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เคน พาเวส, ดอว์น แพททัน, เบรนท์ โพเออร์, คริสซี่ บาร์คเกอร์
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Is Afraid Of Heights

ออกอากาศ : 17 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ในสัปดาห์นี้สาวๆ จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการโพสในอากาศ โดยพวกเธอต้องโพสขณะที่กระโดดบนแทรมโพลีนไปด้วย แอมเบรียลทำได้เป็นธรรมชาติและได้รับคำชมมากที่สุด ในขณะที่ลิซ่าและเฮทเธอร์ต่างก็ทำออกมาได้ไม่เป็นท่าเท่าไหร่นักจากนั้นสาวๆ จะต้องแข่งกันโพสท่ากลางอากาศกับนักเสก็ต ลอยด์ เอสเลอร์ และรางวัลก็คือการได้ถ่ายภาพลงนิตยสารเซเว่นทีน ร่วมกับ แดเนียลล์ อีวานส์ ผู้ชนะจากฤดูกาลที่ 6 ลิซ่าเป็นผู้ชนะการแข่ง ซึ่งเธอเลือกให้ เอโบนีและเจเน็ต ได้ไปถ่ายรูปกับเธอด้วย ซึ่งนั่นทำให้สาวๆ บางส่วนรู้สึกไม่พอใจที่เธอชนะรางวัลครั้งนี้

การถ่ายรูปในสัปดาห์นี้ สาวๆ จะต้องโพสท่าเป็นสัตว์ประหลาดบนยอดตึกสูง พัฒนาการของ บิอังก้าและเอโบนี ถึงกับทำให้มิสเตอร์เจย์ต้องประหลาดใจ เจน่าห์, ลิซ่า และเฮทเธอร์ต่างก็ทำได้ดีอีกครั้ง ในขณะที่เจเน็ตมัวแต่พะวงกลัวชุดชั้นในจะโผล่ออกมาตอนถ่ายภาพ และแอมเบรียลก็พยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะไม่กลัวความสูง

ในห้องตัดสินภาพส่วนใหญ่ต่างก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกรรมการ ถึงจะได้ภาพที่สวยแต่เฮทเธอร์ถูกติเรื่องที่หันข้างตลอดเวลาในการถ่ายภาพ และเป็นอีกครั้งที่เอโบนี่ถูกวิจารณ์เรื่องบุคลิก ด้วยความอึดอัดและติดขัดในการถ่ายภาพทำให้ แอมเบรียลและเจเน็ต กลายเป็นสองคนสุดท้าย ทั้งๆที่ทั้งสองคนต่างก็มีบุคลิกภาพที่ดี และมีศักยภาพในการเป็นนางแบบ สุดท้าย แอมเบรียล ได้รับโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง นั่นทำให้เจเน็ตต้องเป็นผู้ที่ต้องกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ลิซ่า แจ็คสัน
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : แอมเบรียล วิลเลียมส์ และ เจเน็ต มิลส์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เจเน็ต มิลส์
  • ช่างถ่ายภาพ : ไมค์ โรเซนธอล
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เบนนี่ นินจา, แอนน์ โชเก็ต, แดเนียลล์ อีวานส์, ไบรอน เคิร์กแลนด์, ลอยด์ เอสเลอร์, มาร์ค แบพทิสเตอร์
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Gets A Mango

ออกอากาศ : 24 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ในสัปดาห์นี้ นายแบบหนุ่ม ไทสัน เบ็คฟอร์ด ได้มาเยี่ยมสาวๆ ที่บ้านเพื่อสอนเรื่องการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้าต่างๆ โดยพวกเธอจะต้องใช้ของในบ้านมาลองขายแบบเซ็กซี่ จากนั้นสาวๆ ต้องแบ่งกลุ่มกันเพื่อสร้างสรรสปอร์ตโฆษณารณรงค์โรคเอดส์ให้กับองค์กร Keep a Child Alive กลุ่มของ เฮทเธอร์, แอมเบรียล และเจน่าห์ ทำออกมาได้ดีที่สุดและชนะในการแข่ง โดยโฆษณาของเธอจะถูกเอาไปใช้จริงและยังได้ตะกร้าของขวัญผลิตภัณท์ดูแลผิวจากแครอล ดอว์เทอร์ เป็นรางวัล นอกจากนี้เฮทเธอร์ยังได้รางวัลพิเศษ โดยเธอจะได้ถ่ายภาพให้กับ แครอลดอว์เทอร์ โดยแมรี่ เจ. บลายจ์อีกด้วย

ในสัปดาห์นี้สาวๆ จะต้องถ่ายรูปเป็นวัสดุรีไซเคิลต่างๆ ดังนี้

นางแบบวัสดุรีไซเคิล
แอมเบรียลหนังสือพิมพ์
บิอังก้าน้ำมัน
ชานทาลเศษกระดาษ
เอโบนีที่ห่อกันกระแทก
เฮทเธอร์กระป๋องอลูมิเนี่ยม
เจน่าห์กระดาษแข็ง
ลิซ่าขวดพลาสติก
ซาร่าห์ถุงขยะ
ซาลิช่ายางรถยนต์

ในห้องตัดสินภาพของเอโบนีและแอมเบรียล ออกมาดูไร้ชีวิตชีวา ในขณะที่ภาพของเฮทเธอร์, ซาลิช่า และเจน่าห์ใด้รับคำชมเป็นอย่างมาก ภาพของบิอังก้าได้รับคำชมอย่างมากเรื่องการใช้ดวงตา และด้วยความไร้ศักยภาพในการถ่ายรูปทำให้แอมเบรียลและเอโบนีกลายเป็นสองคนสุดท้าย และแอมเบรียลเป็นผู้ที่ต้องตกรอบ แต่เอโบนี่กลับขอที่จะเป็นฝ่ายกลับบ้านเองเพราะเธอรู้สึกรับฟังคำวิจารณ์ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงถูกส่งกลับบ้านและแอมเบรียลได้โอกาสที่จะได้อยู่ในการแข่งขันต่ออีกครั้ง

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ซาลีช่า สโตเวอร์ส
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : แอมเบรียล วิลเลียมส์ และ เอโบนี มอร์แกน
  • ผู้ที่ขอออกจากการแข่งขัน : แอมเบรียล วิลเลียมส์
  • ช่างถ่ายภาพ : เฟรดดริค เรชิว
  • แขกรับเชิญพิเศษ : ไทสัน เบ็คฟอร์ด, อลิซาเบธ ซานติโอ, ลิซ่า ไพรส์, แมรี่ เจ บลายจ์, แมทธิว โรลสโตน
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Runs Into The Glass Door

ออกอากาศ : 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เรียบเรียงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และภาพที่ไม่ได้ออกอากาศ กับการตรวจเช็คข้าวของของสาวๆ ก่อนเข้าบ้านของมิสเจ บิอังก้าวิ่งชนกระจกจนเลือดกำเดาไหล ความหงุดหงิดของเจน่าห์ที่ต้องเลิกบุหรี่ เจเน็ตสอนสาวๆ ทำความสะอาดบ้านแ ละความรู้สึกของบิอังก้าที่ต้องโกนหัว

The Girls Who Crawl

ออกอากาศ : 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

สาวๆ ได้ไปเรียนรู้การเคลื่อนไหวหน้ากล้องกับไทร่า จากนั้นพวกเธอจะต้องไปคัดตัวเพื่อถ่ายมิวสิกวิดีโอของ เอ็นริเก้ อิเกลเซียส โดยเอ็นริเก้จะต้องเป็นคนคัดเลือกดูสาวที่ขึ้นกล้องและมีลุคส์ที่ดูลึกลับเข้ากับคอนเซ็ปต์ของเพลงมาเป็นตัวนำในมิวสิกวิดีโอ และลิซ่าและเฮทเธอร์ถูกเลือกเป็นตัวนำ โดยพวกเธอต้องรับบทเป็นแวมไพร์สาวในมิวสิกวิดีโอเพลง Tired of Being Sorry ในผับใต้ดินในระหว่างถ่ายซาร่าห์รู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง และเฮทเธอร์ซึ่งเหนื่อยและร้อนมากเกินไปจนเป็นลมฟุบลงกับพื้นทำให้สาวๆ คนอื่นเป็นห่วงกันมากในห้องตัดสินวิดีโอของลิซ่า, เฮทเธอร์ และซาลิช่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในขณะที่ความไม่มั่นใจของซาร่าห์ทำให้เธอกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับชานทาล ที่ไร้ชีวิตชีวาในวิดีโอ และด้วยความไม่มั่นใจของซาร่าห์ทำให้เธอต้องตกรอบ

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ลิซ่า แจ็คสัน
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ชานทาล โจนส์ และ ซาร่าห์ ฮาร์ทชอร์น
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ซาร่าห์ ฮาร์ทชอร์น
  • ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ : เจสซี่ เทอเรโร
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เอนริเก้ อิเกลเซียส, บิลลี่ พาร์ค, ลิซ่า เอเรียนน่า
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Starts to Lose Her Cool

ออกอากาศ : 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

สาวๆ ที่เหลือได้ถูกพาไปที่สถาบัน Fashion Institute of Design and Merchandising เพื่อเป็นแบบให้กับบรรดานักเรียนในการออกแบบเสื้อผ้า จากนั้นพวกเธอจะต้องขึ้นเดินแบบบนรันเวย์ และพูดถึงแรงบันดาลใจในการทำชุดตัวนี้ของเหล่าดีไซน์เนอร์ออกมา ลิซ่าและเฮทเธอร์ทำพลาดบนรันเวย์จนเสียความมั่นใจไป และซาลิช่าเป็นผู้ชนะการแข่งครั้งนี้ ซึ่งรางวัลของเธอก็คือถ่ายแบบเครื่องประดับให้กับนิตยสารเซเว่นทีน และเธอเลือกให้ บิอังก้ากับลิซ่า ให้ไปถ่ายรูปกับเธอด้วยการถ่ายภาพประจำสัปดาห์ สาวๆ ต้องถ่ายรูปคู่กับรถที่ถูกเผาท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ เฮทเธอร์ปล่อยให้เรื่องจากการแข่งขันมารบกวนทำให้เธอไม่มีสมาธิในการทำงาน

ที่ห้องตัดสิน ไทร่าบอกให้สาวๆ เตรียมตัวเก็บของไปแข่งต่อที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ภาพของสาวๆ ส่วนใหญ่ได้รับคำชมจากกรรมการโดยเฉพาะภาพของเจน่าห์ และ บิอังก้า กรรมการรู้สึกว่าภาพของเฮทเธอร์เริ่มแย่ลง ในขณะที่ ภาพของแอมเบรียลทำออกมาดีแต่กลับไม่โชว์เสื้อผ้าเลย และลิซ่าเริ่มหมดไฟจึงทำให้เธอกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับแอมเบรียล และสุดท้ายแอมเบรียลต้องตกรอบเพราะกรรมการยังคงเชื่อในศักยภาพที่มีมากกว่าของลิซ่า

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : บิอังก้า โกลเด้น
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : แอมเบรียล วิลเลียมส์ และ ลิซ่า แจ็คสัน
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : แอมเบรียล วิลเลียมส์
  • ช่างถ่ายภาพ : เทรเวอร์ โอ ชาน่า
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เบนนี่ นินจา, นีล ฮามิล, แอน โชเก็ต, แอนเจลา เอวาเนสแยน, ริชาร์ด ชาง, จูเลีย ชูแม็ค, แองเจโล่ เอสทราด้า, จัสติน กรีน, เอริน เฮลเกอร์ซัน, ยูโกะ เพน่า
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คุซมิช

The Girls Go To Shanghai

ออกอากาศ : 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

สาวๆ ได้มาถึง เซี่ยงไฮ้ แล้วเดินทางเข้าสู่ที่พัก แต่ปรากฏว่ามีเตียงไม่พอดีกับจำนวนคน ซาลิช่ายึดเอาเตียงที่ใหญ่ที่สุดไปและปฏิเสธไม่ให้ใครมานอนร่วมเตียงเดียวกับเธอ ซึ่งทำให้เฮทเธอร์ที่ไม่มีที่นอนโกรธมาก แต่สุดท้ายเรื่องก็คลี่คลายลงด้วยดี เมื่อชานทาลมาพูดไกล่เกลี่ยให้ โดยที่เจน่าห์และบิอังก้าจะนอนเตียงใหญ่ร่วมกันแทนวันต่อมาสาวๆ ได้ไปเรียนศิลปะการต่อสู้และต้องแข่งกันโพสท่ากลางอากาศ บิอังก้าไม่ยอมใส่สลิงเพื่อโพสท่าและถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน เฮทเธอร์เป็นผู้ชนะการแข่งขันและรางวัลของเธอก็คือการเดินช็อปปิ้งอย่างสนุกสนานในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเธอเลือกชานทาลให้ได้ไปเดินช็อปปิ้งร่วมกับเธอด้วย

การถ่ายภาพครั้งแรกในเซี่ยงไฮ้ สาวๆ จะต้องใส่ชุดของพวกเธอเองมาถ่ายโฆษณาและภาพถ่ายให้กับเครื่องสำอางคัฟเวอร์เกิร์ล ควีนคอลเล็คชั่นในห้องตัดสิน มีเพียงชานทาลและซาลิช่าเท่านั้น ที่ได้รับคำชมจากกรรมการ โฆษณาและภาพถ่ายของเจน่าห์ทำออกมาได้ดี แต่กรรมการไม่ประทับใจในบุคลิกของเธอ โฆษณาของเฮทเธอร์และลิซ่าเรียกได้ว่าเลวร้ายที่สุดถึงแม้จะได้ภาพถ่ายที่วิเศษก็ตาม ซึ่งทำให้เธอต้องกลายเป็นสองคนสุดท้าย และลิซ่าเป็นผู้ที่ต้องกลับบ้านเพราะกรรมการรู้สึกว่าเธอยังไม่เข้มแข็งพอสำหรับวงการนี้

  • 'ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ชานทาล โจนส์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เฮทเธอร์ คูซมิช และ ลิซ่า แจ็คสัน
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ลิซ่า แจ็คสัน
  • ช่างถ่ายภาพ : จิม เวด
  • ผู้กำกับโฆษณา : เจฟฟรี่ย์ ชู
  • แขกรับเชิญพิเศษ : ลูอิส ลิว, เบรนท์ โพเออร์
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คุซมิช

The Girls Go On Go-See Adventures

ออกอากาศ : 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

สาวๆ ถูกส่งไปโชว์ตัวกับดีไซน์เนอร์ในเซี่ยงไฮ้ เฮทเธอร์หลงทางระหว่างโชว์ตัวและไปหาดีไซน์เนอร์ได้แค่คนเดียวเท่านั้น เจน่าห์ถูกติเรื่องบุคลิกภาพ ในขณะที่บิอังก้าและซาลิช่า ต่างก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาดีไซน์เนอร์ และผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้ก็คือบีอังก้า ซึ่งรางวัลของเธอก็คือภาพของเธอจะได้ขึ้นแผ่นป้ายโฆษณาการแข่งโอลิมปิคในปี 2551

การถ่ายรูปประจำสัปดาห์นี้ สาวๆ ต้องถ่ายรูปเป็นเจ้าหญิงแห่งแดนมังกรกับไนเจล บาร์คเกอร์ แต่เจน่าห์วิจารณ์การทำงานของไนเจล จนทำให้เขาไม่พอใจในห้องตัดสินภาพของซาลิช่าดูโดดเด่นกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ในขณะที่ บิอังก้าห่วงแต่ภาษากายจนลืมโพสหน้าในรูปถ่าย ชานทาลได้ภาพที่สวย แต่ถูกวิจารณ์เรื่องไม่มีสมาธิในการถ่าย และถึงแม้จะได้รูปที่ดีที่สุดทั้งคู่แต่ด้วยปัญหาในการสื่อสารทำให้เฮทเธอร์และเจน่าห์ต้องกลายเป็นสองคนสุดท้าย และจากความล้มเหลวในการโชว์ตัวทำให้เฮทเธอร์ต้องเป็นผู้ที่ต้องกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ซาลีช่า สโตเวอร์ส
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เฮทเธอร์ คูซมิช และ เจน่าห์ ดูเซ็ทท์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เฮทเธอร์ คูซมิช
  • ช่างถ่ายภาพ : ไนเจล บาร์คเกอร์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : ซูซาน หยาง, ชาง จิน ยา, หลิวคุน, สตีเฟ่น เปียง, ฟลอร่า เซต้า, เฮเลน ลี, ฟีโอน่า หว่อง
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คุซมิช

The Girls Go To The Great Wall

ออกอากาศ : 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สาวๆ ได้เดินทางมาถึงปักกิ่ง พวกเธอได้ฟังเรื่องของสาวงามทั้ง 4 คนของจีน วันต่อมาพวกเธอต้องแข่งกันดัดแปลงเสื้อผ้า แต่ละคนจะได้ชุดของสาวงามทั้ง 4 และต้องดัดแปลงให้กลายเป็นชุดที่ทันสมัยในสไตล์ของตัวเอง โดยพวกเธอสามารถที่จะใช้ข้าวของทุกอย่างในห้างสรรพสินค้านี้ได้ บิอังก้าหลอกเจน่าห์ให้ไปทางฝั่งที่ไม่มีของอะไรเลย แต่เจน่าห์ก็ยังชนะการแข่งขันและรางวัลของเธอก็คือชุดกี่เพ้าแบบพิเศษที่ตัดเพื่อเธอโดยเฉพาะ ซึ่งเธอเลือกให้ชานทาลได้รางวัลร่วมกับเธอด้วย นอกจากนี้เจน่าห์ยังได้ไปเรียนเรื่องการเดินแบบกับมิสเจ แบบตัวต่อตัวอีกด้วย

จากนั้นสาวๆ ได้เดินทางไปถ่ายรูปที่กำแพงเมืองจีนกับไทร่า โดยพวกเธอจะต้องแต่งตัวเป็นทหารมองโกเลียที่พยายามจะปีนข้ามกำแพง ซาลิช่าได้รับคำชมเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่เจน่าห์และบิอังก้ากลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร จากนั้นพวกเธอจะต้องถ่ายภาพหมู่โดยต้องพยายามทำให้ตัวเองโดดเด่นกว่าคนอื่นในรูป

ในห้องตัดสินกรรมการต่างชื่นชมภาพถ่ายของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด ซาลิช่ามีความคิดสร้างสรรค์ในภาพเดี่ยว และชานทาลดูโดดเด่นกว่าคนอื่นในภาพหมู่ โรคคิดถึงบ้านของเจน่าห์ทำให้เธอกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับบีอังก้า และถึงบิอังก้าจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ต้องตกรอบเพราะกรรมการยังคงสงสัยในศักยภาพของเธอ

  • ผู้ที่ถุกเรียกชื่อคนแรก : ชานทาล โจนส์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : บิอังก้า โกลเด้น และ เจน่าห์ ดูเซ็ทท์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : บิอังก้า โกลเด้น
  • ช่างถ่ายภาพ : ไทร่า แบงคส์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เควิน ลี, แอน โชเก็ต
  • สาวคัฟเวอร์เกิลร์ประจำสัปดาห์ : เฮทเธอร์ คูซมิช

The Girl Who Becomes America's Next Top Model

ออกอากาศ : 12 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สามสาวได้ถูกพาไปถ่ายโฆษณาลิปกลอส รสผลไม้ตัวใหม่จากคัฟเวอร์เกิร์ล โดยพวกเธอเลือกรสผลไม้จาก 12 รสในการโฆษณาดังนี้

นางแบบรสผลไม้
ชานทาลรสมะนาว
เจน่าห์รสสตอเบอรี่
ซาลิช่าส้ม

ในการถ่ายโฆษณา สาวๆ ต่างก็ทำได้ไม่ค่อยดีนักในตอนแรก มิสเตอร์เจย์ รู้สึกว่าเจน่าห์ตั้งใจมากไปจนดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ และซาลิช่าไม่สามารถจำบทได้จนทำให้สมาธิแตกกระเจิงในห้องตัดสิน สาวๆ จะต้องบอกกับกรรมการว่าใครมีศักยภาพมาก และน้อยที่สุด ซึ่งทุกคนคิดว่าเจน่าห์มีศักยภาพน้อยที่สุดเพราะทัศนคติของเธอ ความล้มเหลวในการถ่ายโฆษณาทำให้ซาลิช่ากลายเป็นสองคนสุดท้ายกับเจน่าห์ และสุดท้ายเจน่าห์ต้องตกรอบถึงแม้ว่าเธอจะมีความเป็นแฟชั่นชั้นสูงมากกว่าก็ตาม

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ชานทาล โจนส์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เจน่าห์ ดูเซ็ทท์ และ ซาลีชา สโตเวอร์ส
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เจน่าห์ ดูเซ็ทท์
  • ช่างถ่ายภาพ : จิม เดอ ยอนเกอร์
  • ผู้กำกับโฆษณา : เบรนท์ โพเออร์

จากนั้นสาวๆ ต้องไปถ่ายภาพขึ้นปกให้กับนิตยสารเซเว่นทีน และเดินทางไปพราะราชวังต้องห้ามซึ่งเป็นรันเวย์สุดท้ายในการแข่งขันของพวกเธอ โดยพวกเธอต้องเดินแบบให้กับคอเล็กชั่นของ ฉีคัง ร่วมกับ แจสลีน กอนซาเลซ ผู้ชนะจากฤดูกาลที่ 8 ในระหว่างเดินแบบ นักแสดงประกอบเกิดอุบัติเหตุในณะที่ชานทาลกำลังเดินอยู่ ทำให้เธอเสียสมาธิ ในขณะที่ซาลิช่าดูโดดเด่นในการแสดงในการตัดสินครั้งสุดท้าย กรรมการต่างก็ชื่นชมในบุคลิกและภาพถ่ายของผู้เข้าแข่งขันทั้งสอง กรรมการรู้สึกว่าชานทาลดูเป็นแฟชั่นชั้นสูงมากกว่าใ นขณะที่ซาลิช่าดูมีลุคส์ที่จะขายได้ในวงการแฟชั่น และหลังจากที่พิจารณากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว คณะกรรมการก็ตัดสินใจและประกาศว่า ผู้ชนะในฤดูกาลที่ 9 ก็คือ ซาลีช่า สโตเวอร์ส

  • ผู้ชิงตำแหน่งสองคนสุดท้าย : ชานทาล โจนส์ และ ซาลีช่า สโตเวอร์ส
  • อเมริกา เน็กซต์ ท็อป โมเดล : ซาลีช่า สโตเวอร์ส
  • แขกรับเชิญพิเศษ : ฉีคัง, ดาร์เรน ดิวแอน, แอน โชเก็ต, แจสลีน กอนซาเลซ, สตีเฟน แดนเลี่ยน

ใกล้เคียง

อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 23 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 24 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 7 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 20 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 10 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 21 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 8 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 4 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 12